ไทยรุ่งพลิกเกมจับลูกค้าเพื่อนบ้าน ลุยเจาะราชการ-กองทัพมาเลย์ปลื้มออร์เดอร์ทะลัก
 |
| TR TRANSFORMER II |
ไทยรุ่ง สบช่องเออีซี ส่งทรานส์ฟอร์เมอร์รุกตลาด พม่า ลาว กัมพูชา ตั้งเป้าโต 10% เพิ่มรายได้รับทำโออีเอ็มกระบะพื้นเรียบให้ค่ายญี่ปุ่นเพิ่ม 2-3 ราย
นายสมพงษ์ เผชิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทจะเน้นการทำตลาดในอาเซียนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ พม่า ลาว กัมพูชา โดยเป็นการส่งออกรถยนต์รุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ไปขายให้กับหน่วยงานราชการใน ประเทศนั้น ๆ นอกจากนี้สำหรับประเทศที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยซ้าย บริษัทยังมีแนวโน้มที่จะนำเข้ารถปิกอัพจากประเทศนั้นเพื่อมาดัดแปลงเป็นรถ ยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์ เพื่อส่งกลับไปขายในประเทศนั้นด้วย
"การเปิดเออีซี ทำให้การค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้นเยอะ ทุกอย่างสามารถเชื่อมโยงกันได้หมด อย่างในประเทศพม่าเรามีตัวแทนอยู่แล้ว ส่วนกัมพูชากำลังเตรียมทำรถตัวอย่างส่งไป และเมื่อปลายปีที่แล้วเราได้ส่งรถยนต์รุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ไปขายให้กับกองทัพ ในประเทศมาเลเซียกว่า 100 คัน"
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู ที่ได้ร่วมพัฒนากับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ รวมถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ต้องการใช้รถลักษณะพิเศษ เช่น ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยให้ประเทศมีรถใช้ ประหยัดงบประมาณและลดการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ
สำหรับทรานฟอร์ เมอร์ ทู มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร สามารถปรับที่นั่งได้ตั้งแต่ 5-11 ที่นั่ง พื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่ารถพีพีวีทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,465,000-1,635,000 บาท โดยจะนำไปแสดงในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 นี้ด้วย
บริษัทตั้งเป้าขายรถยนต์รุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู จำนวน 300 คันในปีนี้ แบ่งเป็นขายในประเทศ 200 คัน และส่งออก 100 คัน ขณะนี้รถยนต์รุ่นดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการจดลิขสิทธิ์ และจดขึ้นทะเบียนนวัตกรรม คาดว่าภายใน 3 เดือนจะแล้วเสร็จ
ในปีนี้เชื่อว่าตลาดรถยนต์ก็ยังทรงตัว คาดยอดรถยนต์ในประเทศอาจจะลดลงประมาณ 7-10% ยอดผลิตรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคัน บริษัทตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ 10%
ขณะเดียวกันก็จะขยายตลาดผลิตกระบะพื้นเรียบมากขึ้น เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมของผู้ใช้งานที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ จากเดิมที่ทำให้กับค่ายอีซูซุเพียงค่ายเดียว คาดว่าจะเริ่มดีลกับค่ายญี่ปุ่นอื่นอีก 2-3 ค่าย
ทั้งนี้ โอกาสในการพัฒนารถปิกอัพเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบดั้งเดิมของไทยรุ่ง เพื่อใช้เป็นรถครอบครัว เป็นไปได้อย่างแน่นอน บริษัทกำลังคิดค้นพัฒนารูปแบบที่แตกต่างจากตลาดรถยนต์พีพีวีทั่วไป เพื่อกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะตัว คาดว่าภายใน 1 ปีอาจจะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
สำหรับปี 2558 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจยานยนต์เกิดการชะลอตัวลงประมาณ 8% ซึ่งบริษัทเองก็มียอดขายที่หดตัวตามไปด้วย ยอดขายอยู่ที่ 200 คัน คิดเป็นรายได้รวมทั้งหมด 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นชิ้นส่วนและแม่พิมพ์ 60% ขายรถยนต์ 5% รับจ้างประกอบรถกระบะ 30% และอื่น ๆ อีก 5%
การประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย นายสมพงษ์ให้ความเห็นว่า ไม่ได้แย่มากนัก การส่งออกก็ยังไปได้ดี อีกทั้งในแง่ของตลาดปิกอัพก็ยังเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าตลาดจะกลับมาสู่ภาวะที่ปกติได้ สำหรับบริษัทเองก็เตรียมพร้อมการลงทุน โดยซื้อที่ดินไว้เพื่อสร้างโรงงานการผลิตไว้ 2 แห่ง แห่งละ 50 ไร่
"การเปิดเออีซี ทำให้การค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้นเยอะ ทุกอย่างสามารถเชื่อมโยงกันได้หมด อย่างในประเทศพม่าเรามีตัวแทนอยู่แล้ว ส่วนกัมพูชากำลังเตรียมทำรถตัวอย่างส่งไป และเมื่อปลายปีที่แล้วเราได้ส่งรถยนต์รุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ไปขายให้กับกองทัพ ในประเทศมาเลเซียกว่า 100 คัน"
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู ที่ได้ร่วมพัฒนากับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ รวมถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ต้องการใช้รถลักษณะพิเศษ เช่น ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยให้ประเทศมีรถใช้ ประหยัดงบประมาณและลดการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ
สำหรับทรานฟอร์ เมอร์ ทู มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร สามารถปรับที่นั่งได้ตั้งแต่ 5-11 ที่นั่ง พื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่ารถพีพีวีทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,465,000-1,635,000 บาท โดยจะนำไปแสดงในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 นี้ด้วย
บริษัทตั้งเป้าขายรถยนต์รุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู จำนวน 300 คันในปีนี้ แบ่งเป็นขายในประเทศ 200 คัน และส่งออก 100 คัน ขณะนี้รถยนต์รุ่นดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการจดลิขสิทธิ์ และจดขึ้นทะเบียนนวัตกรรม คาดว่าภายใน 3 เดือนจะแล้วเสร็จ
ในปีนี้เชื่อว่าตลาดรถยนต์ก็ยังทรงตัว คาดยอดรถยนต์ในประเทศอาจจะลดลงประมาณ 7-10% ยอดผลิตรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคัน บริษัทตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ 10%
ขณะเดียวกันก็จะขยายตลาดผลิตกระบะพื้นเรียบมากขึ้น เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมของผู้ใช้งานที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ จากเดิมที่ทำให้กับค่ายอีซูซุเพียงค่ายเดียว คาดว่าจะเริ่มดีลกับค่ายญี่ปุ่นอื่นอีก 2-3 ค่าย
ทั้งนี้ โอกาสในการพัฒนารถปิกอัพเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบดั้งเดิมของไทยรุ่ง เพื่อใช้เป็นรถครอบครัว เป็นไปได้อย่างแน่นอน บริษัทกำลังคิดค้นพัฒนารูปแบบที่แตกต่างจากตลาดรถยนต์พีพีวีทั่วไป เพื่อกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะตัว คาดว่าภายใน 1 ปีอาจจะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
สำหรับปี 2558 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจยานยนต์เกิดการชะลอตัวลงประมาณ 8% ซึ่งบริษัทเองก็มียอดขายที่หดตัวตามไปด้วย ยอดขายอยู่ที่ 200 คัน คิดเป็นรายได้รวมทั้งหมด 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นชิ้นส่วนและแม่พิมพ์ 60% ขายรถยนต์ 5% รับจ้างประกอบรถกระบะ 30% และอื่น ๆ อีก 5%
การประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย นายสมพงษ์ให้ความเห็นว่า ไม่ได้แย่มากนัก การส่งออกก็ยังไปได้ดี อีกทั้งในแง่ของตลาดปิกอัพก็ยังเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าตลาดจะกลับมาสู่ภาวะที่ปกติได้ สำหรับบริษัทเองก็เตรียมพร้อมการลงทุน โดยซื้อที่ดินไว้เพื่อสร้างโรงงานการผลิตไว้ 2 แห่ง แห่งละ 50 ไร่
ติดตามข่าวสารไทยรุ่ง
website : www.thairung.co.th
facebook : thairungpr
twitter : thairungpr
iG : thairungpr
@Line : @thairungpr
youtube : thairungpr
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1458234765
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น